ในงานบวงสรวงภาพยนตร์ “คิดถึงทุกปี Memories of New Years” ณ Tree Square ทาวน์ อิน ทาวน์ พระเอกหนุ่ม “ชาคริต แย้มนาม” ออกมาพูดถึงการนั่งแท่นเป็นผู้ร่วมทุนสร้างภาพยนตร์ “คิดถึง…ทุกปี Memories of New Years” พร้อมร่วมแสดงนำ ประกบนางเอกจาก สปป.ลาว “น้องบาร์บี้” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างถึง 3 ประเทศ ไทย ลาว กัมพูชา พร้อมทั้งอัพเดทอาการป่วยของคุณแม่
“อย่าเรียกว่าเป็นนายทุน ส่วนหนึ่งแล้วกัน ถามว่าปรับตัวยังไง ไม่ได้มีการปรับตัวอะไรมาก เราเข้าใจในเรื่อง ร่วมแสดง เป็นนักแสดงก็ทำให้เต็มที่ ในส่วนของการเป็นผู้จัด จริงๆ มันก็มีทีมงานที่ดีอยู่แล้ว เขาก็ทำโปรเจ็กต์นี้มา ซึ่งตัวผมเองก็จะเป็นคนสุดท้ายที่เข้ามา เพราะว่ามันไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แล้วก็มีทางฝ่ายแต่ละประเทศที่ให้การช่วยเหลือ ซึ่งผมว่ามันเป็นเรื่องวัฒนธรรมที่น่ารักอันนึง ที่ทำให้เห็นว่าเดี๋ยวนี้มันสามารถเป็นไปได้ในประเทศพี่น้องของเรา สามารถมาร่วมงานด้วยกันได้ มันก็เป็นโอกาสที่ดี
จริงๆ แล้วก็ดูที่หนังเถอะ ทุกคนก็ทำงานกันอย่างเต็มที่ ที่ประเทศไทยเอง ที่ก้มพูชาเอง และที่หลวงพระบางเอง ทุกคนก็ทำกันอย่างเต็มที่ ด้วยเวลาที่จำกัด ด้วยงบที่จำกัด เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่าอาศัยนักแสดง แล้วก็บรรยายกาศ แล้วก็ความน่ารักของวัฒนธรรมที่มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติกับคนที่เข้าอยู่ที่นั่นกันจริงๆ ในฐานะผู้จัดเราก็ทำได้ดีที่สุดในระดับของเราแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ในเรื่องของการตัดต่อ ร้อยเรื่อง ซึ่งผมเองก็กำลังรอดูอยู่เหมือนกัน เชื่อว่าทุกอย่างน่าจะไปด้วยดี
ถามว่าแอบกลัวเรื่องรายได้ไหม คือด้วยสไตล์ผมเเล้ว ผมเองก็ทำให้ดีที่สุด ถามว่าหวังไหม จริงๆแล้ว เรามองกันที่อนาคตมากกว่า ว่าเราอยากจะให้มันไปต่อได้อีก ก็มีคนอื่นประเทศอื่น ติดต่อเข้ามาว่าจะเป็นไปได้ไหม เราก็คงต้องดูจากรายรับของภาคนี้ เพื่อที่จะต่อไปอีกในอนาคต เพราะก็เข้าใจในเรื่องของเศรษฐกิจของวงการหนังทั่วโลก มันก็ค่อนข้างแย่ ก็อยากที่บอกเราคนในวงการ ยังไงเราก็ทิ้งตรงนี้ไม่ได้ เพราะมันเป็นศิลปะที่มันให้ชีวิตกับเรา เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน เป็นสิ่งที่เรารัก มันเป็นงานของเรา มันคือทุกๆวันของเรา เราก็ต้องทำมัน
ส่วนงบประมาณขอไม่พูดเรื่องตัวเลขเเล้วกัน เอาให้ได้เท่าไหร่เเล้วเราค่อยมาว่ากันดีกว่า (หัวเราะ) มันก็ต้องเป็นหลักล้านขึ้นอยู่แล้วแหละครับ แต่เท่าไหร่เดี๋ยวค่อยว่ากัน ผมไม่ชอบคุยเรื่องตัวเลข (ยิ้ม) (แต่ไม่ 7 ตัวใช่ไหม ?) ยังไม่ฉาย ยังไม่ 7 แต่ถ้าตอนนี้ยังไม่ฉายก็ 7 อยู่นิดๆ หรือเปล่า ก็ไม่รู้
ตอนถ่ายทำเจอเหตุการณ์อะไรไหม ก็มีในเรื่องของขนบธรรมเนียมประเพณีแหละครับ โดยเฉพาะหลวงพระบาง อย่างเรื่องประเพณีสงกรานต์ อย่างที่รู้ว่าเป็นวันแห่ หลวงพระบางที่ต้องแห่ออกมาจากวัง เพื่อที่จะไปที่วัด ซึ่งผมเองอยู่ดีๆก็มีโอกาสเข้าไปแห่เฉยเลย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว แล้วได้ไปร่วมแห่ หลวงพระบาง รดน้ำดำหัวหลวงพระบางอย่างใกล้ชิด แล้วก็มีผู้เฒ่าผู้แก่ก็บอกกับเราว่า ถือว่าโชคดีมีอะไรที่ผูกพัน แล้วคุณจะได้กลับมาอีก แล้วก็ได้กลับมาทำหนังที่หลวงพระบางอีก ซึ่งเป็นเมืองที่ผมบอกเลยว่าหลงรักเมืองนี้มาก
ส่วนเรื่องการแสดงเรื่องอื่น ละครก็มีอยู่ครับ รอเรื่อง เดือนกับดาว ของคุณมนัสนันท์ เธอละเอียดมาก เธอตัด 2 ปี (หัวเราะ) ก็ตัดตั้งแต่ก่อนบวชเนาะ นี้ก็ปีครึ่งแล้ว เธอก็อัพเดทตลอด เล่นละครด้วยกันก็อัพเดทตลอด ก็ใกล้แล้วครับ ใกล้คลอดเเล้ว พรุ่งนี้ก็ปิดกล้อง คู่ซี้ผีมือปราบ แล้วก็ใกล้จะปิด มาตุภูมิแห่งหัวใจ ทางช่อง 3 ก็พอก่อน รายการก็ยังมีครัวคริต มีดาวินชี่ แล้วก็เพิ่งขึ้นรายการของตัวเองรายการใหม่ ทัวร์ตัวแตก เป็นเรื่องราวของอาหาร
ช่วงนี้ก็ลุยงานอย่างเดียว ว่าง แต่มีเวลาครับ ยังมีเวลาได้ดูแลคุณแม่ มีเวลาให้เราได้นอนได้พักผ่อนอยู่ เห็นแก่ตัวน้อยลง เรื่องสังสรรค์ เรื่องเพื่อนๆ เดือนสองเดือนค่อยเจอกันก็ได้ ตัดบางอย่างออกไป ทำหน้าที่ของที่ควรจะทำให้ดีที่สุด
เรื่องหัวใจก็เรื่อยๆ ก็ผ่านไปก่อน (หัวเราะ) ขอทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดก่อน ถ้าเกิดมีอะไรดีๆก็จะรีบบอก คนเราทุกคนพอถึงเวลามันก็จะมีเข้ามาแหละ มันปฏิเสธไม่ได้หรอก มันก็คงต้องมีเข้ามา ก็ว่ากันไป เดี๋ยวค่อยว่ากัน (แสดงว่ามีใช่มั้ย ?) เอาหน่ะ อย่ามายุ่งกับผมเลย (หัวเราะ)
อาการคุณแม่ตอนนี้ดีขึ้นครับ หลังจากช่วงมีนา – เมษา ตอนนี้ดีแล้วครับ เริ่มที่จะไม่ต่อต้านแล้ว กับเรื่องการรักษาการดูแล มีแต่งอน เหมือนรู้ว่าวันนี้ไปจะไปหาหมอตื่นมาตาขวาง งอนพยาบาล ทุกคนก็มือสั่น ไม่เป็นอันขับรถ ก็จะมีต่อต้าน ด้วยความเป็นคนขี้รำคาน อายุเยอะด้วย อารมณ์มีขึ้นมีลง ทุกอย่างก็ดี สุขภาพไม่ถอยหลัง ก็โอเค แต่เรื่องอารมณ์ต้องทำความเข้าใจกับเขามากๆ เราก็อธิษฐานทุกวันให้แม่พัฒนาขึ้นให้แม่หายขาด แต่ถ้าบางครั้งเขาได้เท่านี้ด้วยวาระของเขา เราก็ควรที่ต้องยอมรับมัน แต่สิ่งที่ดีที่สุดเราก็อยากให้แม่ยอมรับในตรงนี้ด้วย ไม่อยากให้เขาท้อ ไม่อยากให้เขารู้สึกว่าชีวิตมันหมดค่า เพราะเขาอยู่ตรง มันยังมีค่า ให้เขาใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายตรงนี้ให้ได้ เพราะคุณแม่ก็ 74 แล้ว เราก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะสู้ไปอีกนานแค่ไหน ให้เขาสู้ให้เต็มที่ ลูกก็จะเป็นคนดูแลทุกอย่างให้”