ถูกจับตามองจนกลายเป็นดราม่า เมื่อนักร้อง นักแสดงหนุ่ม “ชิน-ชินวุฒ อินทรคูสิน” ออกงานอีเว้นท์ถี่ทั้งที่ยังติดรับราชการทหารอยู่ จนถูกเม้าท์ว่าได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าคนอื่นหรือไม่ ล่าสุดเจอหนุ่มชินมาร่วมงาน “Supersports 20th Anniversary” ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ลาดพร้าว เจ้าตัวเลยขอชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้นว่า
“อย่างรับงานนี้ เราก็รายงานรายละเอียดกับนาย เขาก็เห็นว่าเป็นเรื่องที่ดี ท่านก็อนุญาต ซึ่งทุกงานผมก็ต้องรายงานและขออนุญาตก่อนอยู่แล้วเพราะว่าเรายังรับราชการตรงนี้อยู่ที่ยังเป็นงานหลักของผม ถ้าสมมติว่าตอนนี้มีโทรศัพท์มาว่าผมต้องไปแล้วนะ ผมก็ต้องลาพี่ๆ แล้วไปเลยทันที นี่คือหน้าที่หลักของผม ซึ่งเขาก็ต้องปฏิบัติตรงนี้ให้เต็มที่ในระยะเวลาที่เราเหลืออีก 10 เดือน ซึ่งหน้าที่ของผมคือการประชาสัมพันธ์ในโครงการต่างๆ หรือใช้สิ่งที่เรามีให้เกิดประโยชน์กับกองทัพ สังคมและประเทศชาติ”
ทุกครั้งที่ชินออกงานอีเว้นท์มักจะถูกจับตามองว่าเราได้สิทธิพิเศษ “ผมว่าคนเขารู้จะไม่ค่อยพูดนะ แต่คนไม่รู้ก็มักจะพูด ทหารไม่ได้เป็นคุกครับ ทุกคนมีล็อคลา ทุกคนมีภารกิจของตัวเอง มีหน้าที่ของตัวเองที่ต้องทำ ภารกิจของผมอาจจะไม่เหมือนของเพื่อนๆ และวันลาของผมอาจจะไม่เหมือนกับเพื่อนๆ ช่วงแรกผมอยู่ในล็อคลาเหมือนเพื่อนๆซะร้อยเปอร์เซ็นต์ มีงานเข้ามาในล็อคลาของผม ผมก็เสียล็อคลาผมอยู่ดี เพราะฉะนั้นมันก็ดูเป็นงานๆไปนะครับ ซึ่งทุกอย่างที่ผมรับมันมักจะเป็นเทป พยายามจะอัดในช่วงล็อคลาที่เราลาได้น้อยๆ ก็อัดไปเลย แล้วมันออกมาทีเดียวหลายๆอันพร้อมกัน แน่นอนครับ ผมก็มีโอกาสได้ลาจริงๆ เมื่อ2-3 เดือนที่ผ่านมา มันก็เลยมาออนในช่วงนี้หมดอยู่แล้ว ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาก็เข้าใจครับ เพราะเขาก็เห็นผมไปปฏิบัติหน้าที่ เราไม่ได้ขี้เกียจ ทุกครั้งที่ได้รับมอบหมายอะไรมา ผมก็ตอบรับไปทันทีไม่ได้อิดออด และทำไม่ได้ด้วย ทุกภารกิจผมก็เต็มที่อยู่แล้ว”
เดือนนึงลาได้กี่ครั้ง “แล้วแต่ครับ ผมไม่แน่ใจว่าตามกฎที่ผมได้ยินมาทุก 1 เดือนทหารจะมีวันลา 10 วันอยู่แล้ว แต่มันก็จะแล้วแต่หน่วยแล้วแต่กองร้อยแล้วแต่ภารกิจอยู่ดี แต่อย่างต่ำก็ประมาณนั้น ที่เหลือแล้วจะอนุมัติมากน้อยแค่ไหน ซึ่งในกองพันกองร้อยนึง ภารกิจแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเข้าเวร บางคนเป็นช่างภาพ ให้กองพัน บางคนทำเรื่องเอกสาร หน้าที่ภารกิจไม่เหมือนกัน วันลาก็ไม่เหมือนกัน”
“สำหรับประเด็นนี้ผมไม่ซีเรียสครับ ถ้าผมซีเรียสคงเครียดตายแน่นอน เพราะผมรู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ และผมไม่เคยปฎิเสธหน้าที่หรือภารกิจที่ตัวเองได้รับมอบหมาย งานหลวงที่เป็นงานหลัก ผมก็ทำเต็มที่ งานข้างนอกแบบนี้ผมก็ทำเต็มที่ ผมไม่ได้มองเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ทุกอย่างก็เป็นตามระเบียบมีการขออนุญาต ไม่ได้เครียดเลย”
ถามถึงกระแสข่าวล่าสุดมีว่าเราเป็นป๋า ทุ่มทำธุรกิจให้ “ลิลลี่” แฟนสาว “อย่าเข้าใจผิดครับ เราทำด้วยกันครับ ลิลลี่ก็ลงทุนเยอะเหมือนกัน เปอร์เซ็นต์ผมอาจจะลงเยอะสุดแต่ลิลลี่ก็ลงเยอะเหมือนกัน เขาลงแรงเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องเมกอัพเครื่องสำอางค์ เขาละเอียดมาก ทำด้วยกันมีหุ้นส่วน 4 คน ผมไม่ได้เป็นป๋าทุ่มเงินครับ เราก็ได้ตามที่เรามีแรงและเขามีแรง เราก็เฉลี่ยกันครับ ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราคุณภาพดี ผลิตที่เกาหลี ไม่แพ้เค้าท์เตอร์แบรนด์เกาหลีเลย”
“ทุ่มไปเท่าไหร่ มันไม่สำคัญเลยครับ ก็ตามกำลังที่เรามี ในงบประมาณที่เหมาะสมที่เราจะทำแบรนด์นี้ขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดแล้วเราอยากให้คุณภาพดีจริงๆ แบรนด์ชื่อว่า ลาเน่ เป็นภาษาพม่า ที่แปลว่า สวย เหตุผลเพราะ ลิลลี่เป็นลูกครึ่งพม่า ก็เลยเหมาะสม ลิลลี่ก็ไปคุยกับผู้ใหญ่ที่พม่าด้วย ก็คิดว่าน่าจะเปิดตัวทั้งที่ไทยและพม่า พร้อมกัน เราตั้งใจทำธุรกิจนี้มาก ท้ายที่สุดแล้วเราก็จริงจังและเราก็อยากจะสร้างอะไรด้วยกัน เขาก็ช่วยซัพพอร์ทผมเยอะเหมือนกัน เราก็ซัพพอร์ทซึ่งกันและกันครับ มันเป็นสิ่งที่สำคัญและเราก็ไม่ทะเลาะกันในเรื่องการทำงานเลย เราเข้าใจว่าเรามองผลประโยชน์ของแบรนด์ด้วยกันเราก็สร้างไปด้วยกัน อนาคตจะเป็นยังไงไม่รู้แต่เราอยากจะสร้างอะไรที่ทำไปด้วยกันครับ”
