สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างหนุ่ม “ไผ่ พาทิศ พิสิฐกุล” กับสาวนางเอกหน้าหวาน “น้ำตาล พิจักขณา” ที่ช่วงหลังจะเห็นว่าไม่ค่อยมีภาพหวานๆ ออกมาสักเท่าไหร่ แต่จะไปเห็นภาพหวานๆของ สาวน้ำตาล กับนักแสดงหนุ่มรุ่นน้องอย่าง “ไฮด์ ศรุญสธร ธนวัชรวัฒน์” ออกมาแทน จนมีกระแสข่าวออกมาว่าหรือนักแสดงหนุ่มรุ่นน้องจะมาเป็นมือที่สามของทั้งคู่ เมื่อมีโอกาสเจอ หนุ่มไผ่ ในงาน บวงสรวงละคร 2 เรื่อง 2 รส พยัคฆา และ รักฉันสวรรค์จัดให้ บมจ.อาร์เอส เลยขอถามถึงประเด็นนี้ โดยเจ้าตัวเผยว่า
“ช่วงนี้กับ น้ำตาล ก็ปกติครับ ยังสนิทสนมเหมือนเดิมครับ ถามว่างงไหมที่มีข่าวออกมา ก็เฉยๆนะครับ เราอยู่วงการมานานมันก็มีข่าวออกมาเรื่อยๆแหละครับ จริงๆผมไม่ได้ยินข่าวนะ เพิ่งมาได้ยินวันนี้แหละ ถามว่าจะกลับไปคุยกับเขาเรื่องนี้ไหม คือปกติก็คุยกันปกติอยู่แล้วครับ เรื่องรูปคู่ที่ไม่ค่อยมีออกมา คือมันไม่ค่อยได้ถ่ายครับ ช่วงนี้ฝนตกบ่อยเลยเข้าป่าบ่อย”
“เรื่องข่าวมือที่สามระหว่าง น้ำตาล กับ น้องไฮด์ ส่วนตัวผมก็รู้จักน้องไฮด์ครับ ก็ยังไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ยืนยันว่าไม่ใช่มือที่สาม อันนี้เรารู้อยู่แล้วครับ เป็นรุ่นน้องที่เขาสนิทกันเคยร่วมงานด้วยกัน จริงๆเขาไปไหน ก็ไม่ถึงกับต้องบอกผมตลอดนะ เขาเองก็มีเพื่อนๆของเขา ถามว่าหึงไหม ผมก็รู้จักเพื่อนๆของเขาหมดอ่ะ ไม่ได้เป็นห่วงเขาเรื่องนี้ เป็นห่วงเรื่องอื่นมากกว่า ส่วนภาพหวานที่เขาถ่ายกัน ผมก็ไม่รู้สึกอะไรนะครับ เพราะคนร่วมงานกัน เขาจะถ่ายกับเพื่อนเขาจะทั้งที่มหาลัยหรือกองถ่าย มันก็ปกติอยู่แล้ว ผมเข้าใจครับ ส่วนเรื่องโชว์หวาน เวลาไปไหนผมจะเป็นตากล้องมากกว่า เราจะอยู่หลังกล้องไง เจอน้องเขาบ่อยไหมก็เเล้วแต่โอกาสครับ จะขยับใช้คำว่าเเฟนไหม ก็ไปเรื่อยๆ ถึงเวลาค่อยว่ากันอีกที”
“ส่วนเรื่องละครทางพี่กุ้งเขาติดต่อมา เราดูบทก็น่าสนใจ ละคร รักฉันสวรรค์จัดให้ เป็นแนวแบบใหม่ที่ยังไม่เคยเล่น ก็เลยคุยกันและร่วมงานกัน ตอนนี้ก็เป็นนักแสดงอิสระครับผม ยังไม่เริ่มถ่ายทำเลยครับ มีการฟิตติ้งไปแล้วเรียบร้อย ไม่ต้องปรับจูนอะไรมากครับ มีแต่ทำความเข้าใจเรื่องบท คุยกับผู้กำกับว่าเราคิดแบบนี้นะ แล้วค่อยไปดูกันอีกทีหน้ากอง ถามว่าตัดสินใจนานไหมกว่าจะรับ ก็ไม่นานครับ ดูแล้วเรื่องนี้แนวนี้ไม่เคยเล่น ก็เลยอยากเล่น ก็ห่างหายจากละครไปก็ประมาณปีสองปีครับ ไปเรียนแอคติ้ง ไปเรียนใหม่ เหมือนไปฟื้นฟูมา นิดนึงเท่านั้นเอง หลังจากนี้ก็จะได้เห็นงานละครมากขึ้น จะเป็นช่องไหนก็แล้วแต่ครับ เพราะไม่ได้มีเซ็นสัญญากับที่ไหน ก็ดูจากบทละครเป็นหลักครับ ว่าบทไหนน่าสนใจแล้วเราทำได้ อีกอย่างก็ไม่ได้คิดถึงความต่อเนื่องในการรับงานละคร เพราะเราก็ทำหลายอย่างเหมือนกัน”