เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากทำดีเพื่อพ่อสำหรับ “โดนัท มนัสนันท์ พันเลิศวงศ์สกุล” ที่เจ้าตัวได้ลงทุนทำสารคดีภาพยนตร์ “THE JOURNEY บันทึกทางไกล..ถึงพ่อ” ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ล่าสุดได้เจอเจ้าตัวในงานแถลงข่าวภาพยนตร์ ณ ร้านอาหาร วานิลลา คาเฟทีเรีย ชั้น ๒ โซน ฮีริกซ์ ห้างสรรพสินค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า
“ที่ตัดสินใจสร้างภาพยนต์คือจริงๆ วันนั้นเราก็ต้องใจกับข่าวที่ได้ยินเราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงให้เรารู้สึกดีขึ้นบ้าง และเราก็ได้อ่านเรื่องราวเกี่ยวกับท่านและได้ไปในที่ๆ ท่านเคยไป และพอดีตอนนั้นโดนัทต้องไปยุโรปก็เลยเปลี่ยนไปโรซานแทนไปทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรกก็ไปศึกษาข้อมูลก่อนว่าท่าน เคยไปประทับที่ไหนทำอะไรบ้างและก็รวบรวมข้อมูลและก็กลับมาทำรีเสิร์ตที่เมืองไทยแล้วก็ไป รอบที่ 2 ไปถ่ายใหม่ และก็ไป รอบที่ 3 ก็เอาทีมงานไปด้วย
กับคุณ “ลีซองดร์ ไซไรดารีส” เราได้อ่านหนังสื่อของท่าน ซึ่งเขามีการแปลราชหัตถเลขา ของในหลวง รัชกาลที่ 9 ตอนแรกที่ได้อ่านก็รู้สึกว่าเป็นการประทับใจเพราะเป็นบันทึกการเดินทางของท่าน ทีนี้เราก็เลยไปคุยและขอดูจดหมายฉบับจริง เขาก็เล่าให้ฟังว่าเขาไม่เคยให้ใครมาก่อนและเขาก็ยอม แต่ก็ไป 3 ครั้ง นะกว่าเขาจะยอมให้ถ่าย และระหว่างทาง คือสารคดีเรื่องนี้เราจะเล่าเรียงลำดับตั้งแต่ปี พ.ศ.1933 คือครั้งแรกที่ในหลวงรัชกาลที่ 8 รัชกาลที่ 9 ย้ายไปอยู่ที่โรซานและท่านต้องเดินทางในทางเรือสมัยก่อนต้องเดินทางบนเรือเป็นเดือนๆ ทีนี้จากโรซานบนเรือมาไทยท่านก็เขียน ราชหัตถเลขาเล่าเรื่องการเดินทางว่าทานเดินทางในช่วงไหนบ้างเราก็มาดูว่าช่วงนั้นมีข้อมูลอะไรบ้าง
ตอนแรกโดนัทจะทำในช่วงเวลานั้นแต่พอได้ไปดูที่ท่านสัมภาษณ์แล้วท่านตอบโจทย์ทุกคำถามทุกการเดินทางของพระองค์ ทุกอย่างที่พระองค์ทำ โดนัท ก็เลยเริ่มค้นไปอีกก็ยากเหมือนกันนะก็ต้องขอบคุณทีมงานที่สนับสนุนโดนัทสุดๆ เพราะอย่างเวลาโดนัทค้นเจออะไรวันนี้ก็จะเอาพรุ่งนี้ เพราะเราต้องทำงานแข่งกับเวลาก็คิดว่าสิ่งที่เรารวบรวมมาก็เยอะพอสมควรและเป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็น ราชหัตถเลขาของจริง
กับคุณลีซองดร์ เขาก็เหมือนเป็นคุณลุงของเราเลยค่ะและบ้างทีเขามาเมืองไทยเราก็จะมีโอกาสได้เจอกันและแสดงให้เขาเห็นจริงๆ ว่าเราอยากสร้างสารคดีเรื่องนี้โดยสร้างแรงบรรดาลใจจริงๆ โดนัท เชื่อว่าการเดินทางทำให้เราเปลี่ยนทำให้มันมีความหมายมาก การเดินทางของในหลวง รัชกาลที่ 9 ในแต่ละครั้งของพระองค์สร้างแรงบรรดาลใจให้ทุกคนได้เห็นช่วงเวลาต่างๆ เพราะมีเรื่องที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อนเราพยายามทำให้เรื่องราวเหมือนจริงที่สุดต้องขอ อนุญาตจากสำนักราชเลขาฯ ได้รับความช่วยเหลือจากการตรวจคําราชาศัพท์ คำพูดทุกอย่างแล้วก็ทำให้ถูกต้องที่สุด เอกสารที่เราใช้อ้างอิงจากเรื่องนี้ก็จะมาจากหนังสือ
จะเรียกว่าใช้เวลาสร้างเรื่องนี้ 1 ปีเต็มไหมก็เกือบนะ แต่ว่าจะมาหนักตอนสองเดือนนี้ โดนัทรู้สึกว่าการทำสารคดีเรื่องนี้มันไม่ได้สำคัญว่าโดนัทเป็นคนทำ สำคัญว่ามีสารคดีเรื่องนี้นะแล้วก็อยากให้คนไทยได้ดูเพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ที่ช่วยทำให้สารคดีเรื่องนี้เกิดขึ้น และรอบฉาย sf ดีแทค ก็ให้ดูฟรีซึ่งไม่มีเกินขึ้นมาก่อนรู้สึกว่าทำแล้วมีความสุขตอนนี้ก็แฮปปี้แล้วอยากให้มาดูกันจริงๆ
สำหรับสุขภาพตอนนี้ก็จะต้องพยายามนอนให้ครบ เพราะโรคที่โดนัทเป็นมันจะกำเริบตอนที่พักผ่อนไม่เพียงพอเพราะตอนที่ไปถ่ายที่สวิตเซอร์แลนด์ก็เกือบแย่เหมือนกันแต่ทุกคนก็ช่วยดูแลและจะรู้สึกว่าตอนทำสารคดีเรื่องนี้เหมือนยังอยู่ในอดีตอยู่เลยก็เหมือนเป็นการเยียวยาตัวเองในระดับหนึ่ง
เราก็พยายามต้องนอนให้พอมันจะวุ่นแค่ช่วงนี้โดนัทเป็น SLE มาตั้งแต่ต้นปีตอนที่ตรวจเจอจนตอนนี้เป็นช่วงเดือนสองเดือนที่ดีขึ้นเพราะต้องไปให้ยาทุกเดือนกินยาตรงเวลา หมอบอกให้นอนมากๆก็นอน อย่างทำงานดึกเราก็ต้องนับเวลาไปให้พอ เดียวผ่านวิคนี้ไปก็โอเคแล้ว ที่สำคัญ ค่อนข้าง sensitive กับโรคตัวเองมาก คือด้วยความพัวพันกับการถ่ายละคร 2 เรื่อง ก็มีแต่รับซ้อนก็เลยต้องขออนุญาตเขาช่วยนั้นคือหนักมา ตอนนี้ก็เลยต้องจัดการเวลาเป็นคนทำงานไงหยุดงานไม่ค่อยได้ ก็ฝากด้วยนะค่ะ บันทึกทางไกล…ถึงพ่อ”