จากกรณี น.ส.ชุติมา โสดาภักดิ์ หรือ อาร์ม ชุติมา อายุ 18 ปี นักร้องลูกทุ่งสาว ผู้แต่งเพลงผู้สาวขาเลาะ ที่ร้องโดย ลำไย ไหทองคำ ออกมาโพสต์ข้อความระบายความในใจเกี่ยวกับเรื่องราวในค่าย ไหทองคำฯ หลังได้รับค่าตอบแทนอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งที่เป็นคนแต่งเพลงดังให้ลำไย ไหทองคำ ร้องจนคว้ายอดวิว สูงถึง 600 ล้านวิว แต่กลับไม่ได้เงินสักบาท โดนดูถูกเหยียดหยาม จนทำให้เธอตัดสินใจประกาศแยกทางกับ ค่ายไหทองคำฯ
ซึ่งจากประเด็นดังกล่าว อาร์ม ชุติมา ได้ออกมาเปิดใจว่า ปัญหามันมีสักพักใหญ่ๆ เรื่องผลประโยชน์และการดูแล ทางค่ายไม่ค่อยดูแลเท่าไหร่ เวลาไปงานก็ปล่อยให้ไปงานเองบ้าง ขึ้นเครื่องบินคนเดียวบ้าง ตามสัญญาที่เซ็นไว้ 70-30 เปอร์เซ็นต์ จากที่ได้รับไม่น่าจะถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ไม่รู้ว่าได้กี่เปอร์เซ็นต์ ทางเขาบอกว่าได้ครบ แต่คิดว่าไม่น่าจะครบ
อย่างประเด็นเพลงผู้สาวขาเลาะที่อีกฝ่ายบอกว่าได้ซื้อขาดพร้อมให้เงินเรียบร้อยแล้วนั้น ตนก็เพิ่งรู้ว่าได้ขายขาดตอนมีข่าว เพราะตอนเซ็นสัญญาไม่ได้มีการแจ้งว่าขายขาด แต่บอกเหตุผลว่ากลัวมีคนจะมาแอบอ้างเอาเพลงไปเท่านั้น
ก่อนที่จะให้ “ลำไย ไหทองคำ” ร้องเพลงนี้ ได้มีการตกลงไว้ว่าจะขายเป็นงานคู่ หากเพลงดังมีกระแสก็จะเป็นคู่ พี่ร้องน้องแต่ง จะให้ขึ้นคอนเสิร์ตคู่ลำไย และจะแบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เป็นงานๆ เหมือนอาจารย์แต่งเพลงที่ได้เปอร์เซ็นต์จากศิลปิน แต่ก็ไม่เคยได้จากคิวที่ลำไยใช้ร้องเพลงเลย มันเป็นเพียงสัญญาใจ ซึ่งอีกฝ่ายบอกมันไม่มีในสัญญา
ส่วนแบ่งในยูทูปเราก็ไม่เคยได้ แต่ยืนยันว่าตกลงกันจริงๆ ซึ่งเราก็ศึกษาและถามผู้รู้และพี่ๆที่มีประสบการณ์ ถึงจะบอกเป็นจำนวนเงินไม่ได้ แต่ก็เยอะพอสมควร ซึ่งเราไม่ได้เลย ที่ไม่ถามตั้งแต่แรกเพราะเราให้เกียรติ หากอาจารย์อยากให้ก็คงให้เอง
ถามว่าตอนที่เซ็นสัญญากัน เราได้อ่านไหมว่าในสัญญาได้ระบุอะไรไว้บ้าง ยอมรับว่าอ่านสัญญาแล้วแต่ไม่เข้าใจ ตอนนั้นทำสัญญาอายุเพียง 16 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แม่เซ็นเป็นพยาน อีกอย่างอาจารย์ก็ย้ำว่าให้เซ็นกันไว้เพื่อไม่ให้ใครมาแอบอ้าง ตอนนั้นก็ได้คุณพ่อคุณแม่ช่วยดูและเป็นพยาน โดยแม่จะอ่านแต่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ต้องอ่านหรอก เพราะไม่ได้จะต้องการโกงหรือหาเรื่องฟ้องอะไร จึงทำให้ไม่ได้อ่าน เพราะความไว้ใจ 100 เปอร์เซ็นต์จึงได้เซ็นไป ซึ่งในตอนนี้สิทธิ์เพลงนี้จึงน่าจะเป็นของเขา
ส่วนประเด็นค่าลิขสิทธิ์เพลง 1 เพลง 10,000 บาท หลังจากเซ็นเขาก็โอนมาให้เพลงละ 10,000 บาท 3 เพลง ก็ 30,000 บาท ตอนที่เขาให้เงินมาไม่รู้เลยว่านั้นคือเงินค่าลิขสิทธิ์ เขาบอกว่าเป็นรางวัลคนเก่ง ไม่ได้บอกว่าเป็นการซื้อเพลง หรือบอกว่าเป็นการขายขาด เพราะหนูจะบอกกับทุกคนตลอดว่าหนูไม่ขายเพลงนะ เพราะหนูแต่งเพลงไม่เก่ง ซึ่งเซ็นสัญญาลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด 3 เพลง ได้แก่ อดีตเคยพัง, ผู้สาวขาเลาะ และภาพเก่า
ถามว่าตัดสินใจฉีกสัญญา ไม่กลัวจะโดนฟ้องเหรอ ก็กลัวแต่อยู่ไม่ได้แล้ว มันหลายอย่าง ทั้งเรื่องส่วนแบ่ง เรื่องการดูแล และเขาก็เคยไล่ตนออกถึง 4 รอบ ตอนที่เขาไล่ออก เหมือนตอนนั้นเขาอารมณ์ไม่ค่อยดีก็ไล่ออก ตนก็ร้องไห้ ซึ่งแม่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้น แม่บอกให้อดทน แม่ก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ด้าน ลำไย ไหทองคำ คงได้ทราบเป็นบางเรื่องเพราะต่างก็แยกกันทัวร์คอนเสิร์ต พร้อมยืนยันว่าไม่ได้น้อยใจที่ไม่มีทุกอย่างเหมือนลำไย แต่น้อยใจที่ไม่ได้ในส่วนของตนเอง
“หนูไม่ได้น้อยใจที่หนูไม่ได้มีอย่างพี่ลำไย หนูแค่น้อยใจที่หนูไม่ได้ในส่วนของหนูค่ะ พี่ลำไยเคยซื้อทองให้หนูตอนที่เอาเพลงให้ร้องในช่วงแรกๆ ครึ่งสลึงค่ะ (ยิ้ม) แล้วก็อีกรอบหนึ่งเป็นตอนงานวันเกิดหนูเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วก็ให้ทอง 1 บาท แล้วปีใหม่ที่ผ่านมาก็ให้ 1 บาท อันนี้คือที่พี่ลำไยให้ทองมาค่ะ”
“ตั้งแต่เกิดเรื่องก็ได้คุยกันค่ะ ก็บอกว่าจะไม่อยู่แล้วนะ (น้ำตาคลอ) เขาก็ร้องไห้ค่ะ ความสัมพันธ์ของหนูกับพี่ลำไยไม่ได้มีอะไรกันค่ะ ไม่มีปัญหาเลยค่ะ”