ถือเป็นทริปที่หวานสุดๆ เลยก็ว่าได้สำหรับคู่รัก “ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ” และ “ตูน บอดี้สแลม” ที่ทั้งคู่ควงกันไปลั้ลลาที่ต่างประเทศ แถมได้ยินว่าสาว “ก้อย” มีเซอร์ไพรส์วันเกิดให้หนุ่ม “ตูน” อีกด้วย พอได้เจอสาว “ก้อย” ในงาน สเก็ตเชอร์ส แบล๊คไลท์รัน ไทยแลนด์ เจ้าตัวก็ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้และเรื่องเข็มทิศชีวิตซึ่งเจ้าตัวมีชื่อเอี่ยวด้วยว่า
“ทริปที่เพิ่งไปเที่ยวกับ “ตูน” ก็ดีค่ะ หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมไปนานจัง จริงๆ แล้วทุกปีเราจะทำงานกัน 11 เดือน แล้วจะมี 1 เดือนที่เราจะหยุดพัก ทริปนี้เราแพลนกันข้ามปี เพราะว่าเขามีคอนเสิร์ตด้วย และเราสองคนไม่ได้ทำงานคนเดียวค่ะ ก้อยเล่นละครก็อยู่กับกองถ่าย พี่ตูนก็มีวงมีคนอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เพราะฉะนั้นจะทำอะไรเราก็ต้องเตรียมก่อนล่วงหน้านานนิดหนึ่ง บรรยากาศดูโรแมนติกก็ดี ไปหลายที่เหมือนกัน ไปอังกฤษ ไปออสเตรีย สวิสเซอร์แลนด์ กรีซ ซานโตรินี่ และเยอรมันค่ะ แพลนนี้เราช่วยกันค่ะ หลักๆ คือเป็นทริปตามใจแฟน คือเขาอยากจะไปดูฟุตบอล ไปดูคอนเสิร์ต เมืองต่างๆ ที่ไปก็คือเมืองที่เขาจะไปดูคอนเสิร์ตนี่แหละ (หัวเราะ) แต่อย่างซานโตรินี่ก้อยอยากไป พอมีช่วงว่างไม่มีคอนเสิร์ตก็เลยไปค่ะ
โมเม้นท์หวานๆ ก็ปกติค่ะ ไม่ได้หวือหวา ไปครั้งนี้ไม่ลำบากเลยค่ะ คือเราสองคนเที่ยวกันอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าสังเกตก็จะมีปีนึงที่พี่ตูนกับก้อยจะเดินทางไปด้วยกันสองคนนานๆ ไม่ได้รู้สึกว่าลำบากอะไร รู้สึกว่าเราได้เรียนรู้กันมากกว่า มันเป็นเรื่องของการวางแผน การเดินทางไปหลายประเทศมันต้องวางแผน ตั๋วเครื่องบิน ที่พัก การเดินทางต่างๆ เราสองคนก็ช่วยซึ่งกันและกัน มันก็ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่างค่ะ แตกต่างจากที่เคยไปเที่ยวกัน รอบนี้คือไม่เคยไปมาก่อน แล้วก็สวยงามมาก มันก็มีอะไรใหม่ๆ ที่เราไม่เคยทำ ไม่เคยได้ไป ได้เห็นอะไรที่แตกต่างจากที่เราเคยเห็น อย่างซานโตรินี่ก้อยไม่เคยไปมาก่อน พี่ตูนก็ไม่เคย เราไปแล้วก็ประทับใจ
คาบเกี่ยววันเกิดพี่เขาด้วย นี่แหละสิ่งที่ไม่เคยทำ (ยิ้ม) ปกติวันเกิดเขาเราก็จะเซอร์ไพรส์แหละ แต่คราวนี้อยู่ต่างประเทศมันก็มีความยากในการที่จะทำอะไรให้ ตอนแรกก็จะซื้อจากเมืองไทยไป แต่ก็รอไปดูเอาดาบหน้าดีกว่า เผื่อเดินๆ แล้วไปเจออะไรที่เขาชอบ สุดท้ายเขาก็บอกเหมือนเดิมว่าไม่อยากได้อะไร ไม่ต้องให้อะไรเขาเลย แต่คือเราต้องมีอะไรนิดหนึ่งไง ก็เลยจัดเซอร์ไพรส์ให้ เราก็ไปหาร้านดอกไม้และสั่งให้เขาเอามาวางไว้ที่ที่พักเราตอนที่เขากลับมา แล้วก็ไปจองร้านอาหารที่มันบรรยากาศดีๆ แล้วก็แอบยกเค้กมาเซอร์ไพรส์ บอกเลยว่ายากมาก บางทีฝรั่งเขาก็ไม่รู้ว่าเราจะทำอะไร คือเราก็แอบไปบอกเขาว่าเราจะเซอร์ไพรส์แฟน อย่าเพิ่งเอาเค้กเข้ามานะ ก็มีการเตี้ยมกันพอสมควร
เซอร์ไพรส์ที่เยอรมันกับสวิสค่ะ คือพอวันที่ 29 เสร็จแล้วก็วันที่ 30 อีกที คล้ายๆ เดิม คือเขาลืมไปแล้วเพราะเห็นว่าเราเซอร์ไพรส์ไปแล้ว อยู่ๆ โผล่มาอีกรอบหนึ่งเขาก็เหวอ (ยิ้ม) รอบนี้สำเร็จ แต่รอบแรกไม่สำเร็จ เพราะบริกรเดินมาถามว่ายกเค้กออกมาเลยมั้ยครับ ต่อหน้าพี่ตูน (หัวเราะ) คือนางก็จะมีเซนส์อยู่แล้ว เพราะก้อยทำตัวลับๆ ล่อๆ พอพนักงานมาถามว่าเอาเค้กออกมาเลยมั้ย พี่ตูนก็ยิ้มๆ แล้วเขาก็ยกออกมา เขาก็น่าจะประทับใจค่ะ (หัวเราะ) แล้วก็มีของขวัญที่ตั้งใจจะให้ค่ะ แต่ยังไม่ได้ให้ คือกำลังจะซื้อ (หัวเราะ) คือสั่งไว้อยู่ ก็เป็นของที่เขาไม่ค่อยได้ใช้ค่ะ เป็นสิ่งที่เขาก็สนใจเหมือนกัน แต่เขาไม่เคยมีมาก่อน เวลาจะหาอะไรให้ก็ต้องดูว่าอะไรที่เขายังขาด เพราะเรื่องกีฬาเขาก็มีแล้วทุกอย่าง อันนี้ก็เป็นของใช้ประจำวันที่เขาสามารถเอามาใช้ได้ค่ะ
เอาจริงๆ เป็นการทำเซอร์ไพรส์ที่ยากที่สุดเลยค่ะ เกือบคิดไม่ออกเหมือนกัน แต่ระหว่างที่เดินทางก็เห็นว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่จำเป็นของเขาจริงๆ ก็คิดว่าพอกลับมาเมืองไทยจะมาซื้อ ก็ดำเนินการแล้ว แต่ของยังมาไม่ถึง (ยิ้ม) ใช่ค่ะ (ยิ้ม) มันก็ไม่ได้ยากเกินไปนะ เวลาเราเห็นคนดีใจเราก็มีความสุขไปด้วยค่ะ ก้อยชอบเซอร์ไพรส์คนที่บ้านด้วย พ่อแม่พี่น้องเซอร์ไพรส์หมด (ยิ้ม) ที่บอกจะถือเป็นโอกาสไปดูทริปพรีเว็ดดิ้งไหม ซานโตรินี่สวยมากจริงๆ พูดแค่นี้ (หัวเราะ) แต่ไม่ได้คิดว่าจะให้ไปขอแต่งงานที่นั่นหรอก ไม่ได้คาดหวังอะไรเลย ทุกคนจะชอบบิ้วแบบนี้ก่อนไป (ยิ้ม) ก้อยว่าคนอย่างพี่ตูนบางอย่างอาจจะมาจากโมเมนตอนนั้น เขาอาจจะไม่ได้ต้องวางแผนอะไรเยอะแยะ เราก็ยังรอ คือเราชอบเซอร์ไพรส์ มันสนุก (ยิ้ม)
ส่วนเรื่องกระแสเข็มทิศชีวิตมีเราด้วย ก็มีหลายคนมาถาม น่าจะเหมือนนักแสดงหลายๆ คนที่เข้าเรียน ทุกคนก็เห็นข่าวกัน แล้วก็ส่งข้อความมาถามไถ่ค่ะ ตัวก้อยไม่ได้กังวล เพราะก้อยไม่ได้มีอะไรที่ติดขัด แต่เราเห็นข่าวเราก็ไม่สบายใจ เป็นห่วงทุกๆ ฝ่ายค่ะ ยังแวะเวียนไปนานๆ ทีค่ะ ถ้าเรียนนี่ก้อยไปนับครั้งได้เลย ไม่ได้เข้าไปเรียนสักพักนึงแล้วค่ะ สิ่งที่ก้อยไปเรียนมาในความคิดส่วนตัวของก้อยนะคะ มันมีหลักสูตร มีบทเรียนหลายอย่างที่เป็นแนวคิดที่เราสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตเราในเรื่องของการทำงาน ในเรื่องของความคิดได้นะคะ อันนี้ก้อยว่าพวกดีเทลต่างๆ เห็นว่าคุณครูเขาได้มีการแถลงข่าวไปเมื่อวานนี้แล้ว
ที่คนไปตีความผิดว่าเป็นการล้างสมองเปรียบเทียบเหมือนอีกวัดหนึ่ง คนเรามันก็คิดได้ค่ะ จริงๆ แล้วเราห้ามความคิดของใครไม่ได้เลย โลกใบนี้ทุกอย่างมันมีสองด้านอยู่เสมอค่ะ เพราะฉะนั้นเราไม่สามารถไปตัดสินความคิดใคร เรามองอะไรให้เป็นกลางที่สุดดีกว่า เดินทางสายกลางนี่แหละดีที่สุดแล้ว ส่วนตัวไม่ได้คุยกับครูอ้อยเลยค่ะ (ยิ้ม) ถามว่าเชื่อในสิ่งที่เรียนมาไหม ในส่วนของการเรียนตัวก้อยได้สิ่งนั้นมาจริงๆ เรารู้สึกว่าสิ่งที่ห้องเรียนได้สอนมา เราก็มีกำลังใจดีๆ เกิดขึ้นในระหว่างที่เราไปเรียนค่ะ กับนักแสดงที่เป็นข่าวก็เคยคุยกันค่ะ แต่ก็นานาจิตตังเลย แล้วแต่คนค่ะ ทุกคนไปเรียนเหมือนกัน แต่ผลลัพท์ที่ออกมาไม่เหมือนกัน หรือว่าความคิดไม่ตรงกันก็แล้วแต่บุคคลผู้นั้นเลย เพราะเราก็ต้องเคารพเขา เราต้องให้เกียรติการตัดสินใจของทุกๆ คนด้วยค่ะ”