นับเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของตลกสาวชื่อดัง “หนูเล็ก ก่อนบ่าย” หรือ “ภัทรวดี ปิ่นทอง” ที่ได้สูญเสียคุณพ่อ “ไล่ ปิ่นทอง” ด้วยโรคมะเร็งในวัย 81 ปี ล่าสุดมีโอกาสเจอ “หนูเล็ก” ในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เจลเซรั่มน้ำดอกไม้ของ “Garden Me and You Grand” ณ แฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 สยามพารากอน เธอได้ออกมาเผยถึงความสูญเสียในครั้งนี้ว่า….
“อันดับแรกหนูต้องขอโทษแฟนๆ และพี่ๆ สื่อมวลชนทุกคนที่ไม่ได้บอกว่าพ่อเป็นอะไรนะคะ เพราะว่าหนูไม่อยากให้ใครรู้แล้วจะสงสารพ่อ แล้วพ่อจะยิ่งทรุดลงค่ะ คือพ่อไปตรวจเจอก้อนเนื้อที่สมองเพราะพ่อปวดหัวก่อน พอเจอก้อนเนื้อที่สมอง คุณหมอก็เลยหาสาเหตุว่ามันมาจากไหน ก็มาจากปอดและตับ ติดเชื้อจากปอดและตับจนขึ้นสมอง กลายเป็นมะเร็งระยะแพร่กระจาย ซึ่งมันมากกว่าระยะสุดท้ายค่ะ ยังไงก็ไม่หายค่ะ ก็พอรู้แล้วเริ่มทำคีโมไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้สักอย่างเพราะพ่ออายุ 80 ปีแล้ว เราก็ตัดสินใจรักษาแบบธรรมชาติ คือให้พ่ออยู่กับโรคได้ จนพ่อบอกว่าทนได้นะ รับได้ด้วย พ่อก็อยู่ได้ 6-7 เดือน ก็มีเวลาให้พวกเราได้ทำใจนานมาก จนหนูเข้มแข็งเพราะพ่อสู้ เราก็เลยสู้ค่ะ”
“ถามว่ามีท้อมั้ย ตอนแรกหนูเป็นคนแรกที่ไปเอาผลมาจากคุณหมอ พอเอาผลมาปุ๊บก็อ่านไม่ออก เพราะมันเป็นภาษาอังกฤษ คือหนูขออนุญาตเอาไปดูก่อนญาติพี่น้อง หนูจะได้ทำใจได้ เพราะหนูรักพ่อมากและดูแลมาตั้งแต่เริ่ม ทีนี้ก็นึกถึงพี่มิค บรมวุฒิ เพราะพี่มิคเคยเรียนหมอมาก่อน เลยส่งไปให้พี่มิคดู พี่มิคก็เลยส่งไปให้น้องที่เป็นหมออ่านมา ตอนนั้นพี่มิคบอกว่าอาจจะเป็นมะเร็งนะหนูเล็ก หนูก็ร้องไห้เกือบครึ่งชั่วโมง ไม่กล้าขึ้นไปบอกพ่อ จนตัดสินใจขึ้นไปบอกพ่อ ก็ไม่ร้องไห้ ก็บอกพ่อว่า พ่อไม่เป็นไรนะ เราต้องสู้ เราต้องทน แล้วพ่อเขาฉลาด เขาก็รู้เอง”
“ก่อนหน้านี้คุณพ่อมีอาการติดเชื้อในปอด ติดเชื้อในกระแสเลือดค่ะ หมอบอกว่าทำอะไรไม่ได้เลย ให้ยาฆ่าเชื้อเป็น 20 ขวดแล้วก็ไม่หาย จนพ่อบอกและจดเป็นสัญญาไว้ว่าห้ามช่วยเหลือชีวิต ห้ามต่อท่อ ห้ามใส่สายยาง ห้ามเจาะคอเด็ดขาด เราก็เคารพในสิ่งที่พ่อตัดสินใจ พอพ่อบอกว่าอยากกลับบ้าน พี่ชายก็ถามว่าเอายังไง เราก็พาพ่อกลับบ้านตามที่พ่อต้องการ พอกลับบ้านปุ๊บ ประมาณ 00.50 น. พ่อก็หายใจแรงจากนั้นชีพจรก็ค่อยๆ ลดลงและจากไป ท่านเสียที่บ้านค่ะ เราได้ทำตามทุกอย่างที่คุณพ่อต้องการ”
“ก่อนที่พ่อจะเสียประมาณ 2 วัน หนูก็อยู่กับพ่ออยู่แล้ว ก็ถามว่าพ่อกลัวตายไหม พ่อบอกว่าไม่กลัว ก็ถามต่อว่าพ่ออยากอยู่ต่อไหม พ่อบอกว่าไม่อยากอยู่แล้ว พ่อได้สั่งเสียเอาไว้และบอกกับพยาบาลที่เขาทำประวัติไว้ว่าหนูเป็นสิ่งที่พ่อภูมิใจมากที่สุดในชีวิต”
“ตอนนั้นที่พยาบาลบอกคือโห มันน้ำตาไหล ตื้นตัน ภูมิใจมาก เพราะสิ่งที่เราทำ เราไม่ได้หวังอะไร เราอยากให้พ่อกับแม่เราสบาย ลูกคนอื่นเขาก็ทำ แต่ว่าพ่อพูดว่าสิ่งที่พ่อภูมิใจที่สุดในชีวิตคือหนู”
“ก่อนท่านเสียไม่ได้อยู่กับคุณพ่อค่ะ แต่ก่อนที่พ่อจะทรุด หนูอยู่ประมาณแค่ 2 วันเอง พ่อก็อยากอุ้มหลาน แต่หนูบอกกับพ่อแล้วว่ายังอยากดูแลพ่อให้ถึงที่สุดก่อน ยังไม่อยากมี”
“ตอนที่พ่อบอกว่าไม่อยากอยู่แล้ว ก็คิดในใจว่าพ่อคงเจ็บปวดและทรมานมากค่ะ พ่อจะบอกว่าขอให้หนูคอยอยู่กับเขาใกล้ๆ นะ อย่าไปไหน เวลาเขาอยู่กับหมอ เขากลัวหมอจะทำอะไร จะช่วยชีวิตเขา หนูก็บอกว่าพ่อไม่ต้องกลัว พอพ่อบอกแบบนั้นเราก็ต้องทำตามใจพ่อค่ะ”
“เรียกว่าเตรียมตัวกับวาระความตายมั้ย ใช่ค่ะ พ่อเป็นคนเตรียมตัว ปกติเขาเป็นคนฉลาด เขาเตรียมตัวเตรียมใจของเขาไว้แล้ว”
“ตอนแรกหนูทำไม่ได้เลยค่ะ ประมาณเดือนแรก จนมาเห็นที่พ่อสู้ พ่อฉายแสงมาเสร็จแสงแรก พ่อดูไม่ไหว แต่พ่อออกมาก็ทำท่าเข้มแข็งแล้วบอกว่าเหมือนมีพลัง หนูนี่น้ำตาไหล พ่อหลอกเราอะ คืออยากให้เราทำใจค่ะ”
“ส่วนกำลังใจในครอบครัว คือตอนนี้เป็นห่วงแค่แม่ แต่แม่ก็รู้สึกโล่งนะคะเพราะว่าเขาเครียดเวลาพ่อเจ็บ ตอนนี้ทุกคนเอาระยะเวลากลางวันทำใจได้ ทำงานได้ ยิ้มได้ แต่พอกลางคืนตกค่ำจะร้องไห้เพราะมันกลั้นไว้ไม่อยู่ค่ะ”
“ยังคิดถึงเวลาเราหยอกกัน เวลาป้อนข้าวให้พ่อ เวลาพูดคุยกับพ่อค่ะ”
“ก่อนที่พ่อจะสิ้น หนูทำงานถ่ายละครอยู่ แล้วแฟนอยู่ที่บ้าน แฟนไม่กล้าโทรมาบอก ประมาณตอนบ่าย 2 ทั้งกลิ่นธูปทั้งกลิ่นควันกลิ่นหมากเต็มไปหมดเลยในบ้านหนู แล้วแฟนไม่กล้าบอก ประมาณ 4 โมงเย็น พี่ชายโทรมาบอกว่าพ่อไม่ไหวละนะทำไง หนูเลยบอกว่าพาพ่อกลับบ้านเลย แต่ตอนนั้นอยู่ๆ หนูก็ถ่ายรูปท้องฟ้าแล้วพูดว่าคิดถึง แฟนก็เลยบอกว่าใช่แน่ๆ เพราะเขาก็ได้กลิ่นธูปแต่ไม่กล้าโทรบอก มันเหมือนเป็นลางบอกว่าพ่อคงจะไม่อยู่แล้ว”
“ส่วนเรื่องมีน้อง ปีหน้าค่ะ ก็บอกกับแม่แล้วว่าหนูจะดูแลแม่อย่างดีที่สุด จะเอาใจใส่ให้มากที่สุด คือจะดูแลแม่เหมือนเด็กคนนึงเลยค่ะ จะมีลูกให้แม่”
“เชื่อว่าคุณพ่อจะมาเกิดเป็นลูกเราไหม อืม…ไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย คิดแต่ว่าพ่อไปสบายเพราะว่าตอนที่พ่อเสียแล้วหนูไปรดน้ำศพ พ่อไปแบบสบายใจ ไม่เจ็บปวดจริงๆ พอตอนที่เขากำลังจะเผาก็ดูอีกรอบ หนูไม่ร้องไห้เลยค่ะ เพราะหน้าตาพ่อเขาเหมือนไม่เครียดและนอนสบายค่ะ”
“หลังพ่อเสีย ยังไม่มีอะไรแปลกๆเกิดขึ้นนะคะ แต่พรุ่งนี้เป็นคืนที่ 3 หนูจะกลับไปหาแม่ จะไปรอพ่อ”
เห็นพี่ “แอน ทองประสม” ไปร่วมงานศพด้วย ? “โอ้โห พอเห็นพี่แอนแล้วน้ำตาคลอเลยค่ะเพราะว่าเขาไม่ได้บอกก่อน ดีใจและตื้นตันมาก ไม่คิดว่าพี่จะน่ารักขนาดนี้ หนูแค่ได้ยิ้มกับเขาแค่นั้นเพราะว่ายุ่งมาก พี่ต้นหอมกับรัศมีแขก็ไป หนูก็ได้แค่ยิ้ม หนูยังเสียใจที่ไม่ได้ดูแลเขา แต่เขาเข้าใจค่ะ”