คุณแม่ซุปตาร์สาว “ชมพู่ อารยา เอ ฮาร์เก็ต”ออกมาเปิดใจถึงกระแสเดินพรมแดงคานส์ ปีที่ 6 ในงาน “RESTIER GRAND OPENING” เปิดตัวช็อป “เรสเทียร์” สาขาแรกในประเทศไทย ณ RESTIER SHOP ชั้น 4 เซ็นทรัล เอ็มบาสซี รวมถึงกระแสเปรียบเทียบตน กับ 3 สาว “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” , “วุ้นเส้น วิริฒิพา” และ “โยเกิร์ต ณัฐฐชาช์” ที่ไปร่วมพรมแดงเช่นกัน แต่เจอกระแสโจมตีอย่างหนักกับแฮชแท็ก #เกิดที่ไทยตายที่คานส์
กลับมาจากคานส์เป็นยังไงบ้าง?
“ป่วยอีกแล้วค่ะ จริงๆ ตอนกลับมายังไม่ป่วย หลังจากนั้นประมาณ 3-4 วันถึงป่วย คงเพราะร่างกายมันสะสมคือกลับมาก็ทำงานต่อเลย ก่อนหน้านี้นอนน้อยมา 9 เดือนแล้ว พอเจออะไรนิดนึงก็แบบว่าไปเร็ว ส่วนที่คานส์ก็จะประมาณนี้แหละ ไม่ได้หนักกว่าทุกปี เพียงแต่ว่าปีนี้ชมต้องปั๊มนมด้วยไง อาจจะเอาพลังของเราไป จริงๆ ด้วยตารางงานมีช่วงที่ได้พักได้ชิลบ้าง คนอื่นออกไปกินข้าวกัน แต่ชมก็ปั๊มนมอยู่ในห้อง”
พอใจกับผลงานการทำหน้าที่ของตัวเองบนพรมแดงคานส์ขนาดไหน?
“ชมพอใจนะคะ ไม่รู้คนอื่นพอใจรึเปล่า แล้วทีมงานทุกคนที่ก็แฮปปี้กัน เห็นงานออกมาก็หายเหนื่อย”
ชุดลูกไม้ซีทรูที่ดูเซ็กซี่ได้รับการโหวตให้เป็นชุดที่สวยที่สุดบนพรมแดงคานส์ปีนี้ด้วย?
“อันนี้ชมไม่แน่ใจว่าเป็นอันเดียวกันกับที่เก็นใสคลิปหรือเปล่า แต่ว่ามันก็ไม่รู้ว่าสำนักไหนจัดอันดับให้ ศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน เอาเป็นว่าชมก็ดีใจแต่ก็ไม่ได้อยากจะแบบดีใจถึงขั้นเล่นใหญ่(หัวเราะ)”
ครั้งนี้เหมือนแฟนคลับที่โน่นจะเยอะขึ้น มีมาขอลายเซ็นด้วย?
“ชมไม่กล้าเรียกเขาว่าแฟนคลับหรอก เอาเป็นว่าเขาคงพอจำเราได้มากกว่า ตอนที่ได้ยินเขาเรียกชื่อ ‘อารยาๆ’ ในใจคิดว่าเขาคงเก็นว่าชมมาบ่อยจนจำได้(หัวเราะ) ถือเป็นปีแรกที่เห็นคนมาตามกรี๊ดแบบชัดเจน ถ้าปีก่อนๆ คนที่เรียกชื่อเราคือจะเป็นนักข่าวกับช่างภาพค่ะ ถามว่าครองพื้นที่สื่อของช่างภาพที่โน่นได้มั้ย ไม่ขนาดนั้นหรอก ในงานก็มีเบอร์ใหญ่จริงๆ มาร่วมงานเพราะคานส์คือเวทีระดับโลก”
ถามถึงเรื่อง เจนี่ วุ้นเส้น และโยเกิร์ต ไปร่วมเดินพรมแดงแต่กระแสไม่ค่อยดี เราจะให้กำลังใจเขายังไงบ้าง?
“เอ่อ… ชมว่าเราอยู่ในสังคมที่ทุกคนมีสิทธิ์จะออกเสียง แต่เราแสดงความคิดเห็นโดยไม่ต้องดึงกันลงมาก็ได้ ชมขอพูดแค่นี้แหละในเรื่องของการใช้โซเชียลมีเดีย โอเคเราอยู่ในโลกที่เปิด ทุกคนมีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง แต่อย่างที่บอกคือเราไม่ต้องดึงเขาลงมาก็ได้ เราใช้คำพูด หรือแสดงความคิดเห็นในขอบข่ายที่มันพอเหมาะพอควรก็พอ”
มีโอกาสได้เจอกันที่โน่นบ้างไหม?
“ไม่ได้เจอเลยค่ะ”
ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่ดาราไทยไปร่วมเดินพรมแดงเยอะมาก?
“ถ้าสมมุติมันเป็นสิ่งที่คนไทยเรามีความสุขในการเชียร์หรือการชม มันก็เป็นกำไรของคนดูนะ คือก็แล้วแต่คนมอง ชมเองก็มองว่าก็ดีที่เราได้เห็นคนไทยในเวทีแบบนั้น”
คิดยังไงกับแฮชแท็ก #เกิดที่ไทยตายที่คานส์ เพราะมีเรารอดอยู่คนเดียว?
“อย่างที่บอก เราแสดงความคิดเห็นในขอบข่ายที่เหมาะสมพอเหมาะพอควรดีกว่า การวิพากษ์วิจารณ์มันง่ายกว่าการที่คนเขาเตรียมตัวไปเยอะมาก คนที่ไปทำงานหรือทำงานแต่ละชิ้นออกมามันผ่านการคิด การวางแผน การไตร่ตรองมาเยอะแยะ แต่การที่เราตั้งคำถามว่าทำไมคนนั้นไม่ทำอย่างนั้น ทำไมคนนี้ไม่ทำแบบนี้ หรือทำไม่ถูกใจเราแบบนั้นแบบนี้ คือการถามว่าทำไมมันง่ายกว่าคนที่เขาทำตรงนั้นมาก อันนี้เข้าใจ คือรู้แหละว่าเราเป็นคนของประชาชนก็ต้องโดนวิพากษ์วิจารณ์ใช่มั้ยคะ แต่อยากฝากให้ได้คิดถึงเรื่องการใช้โซเชียลมีเดียหน่อย”
ห่างน้องแฝด สายฟ้า-พายุ” ไปหลายวัน เป็นยังไงบ้าง?
“ก็คิดว่าจะไม่ห่างเท่านี้อีกแล้ว ถามว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องมั้ยที่ไม่เอาเขาไปด้วย ก็ถูกแล้วแหละที่เราเลือกแบบนี้ แต่คิดว่าคงไม่มีภารกิจอะไรที่จำเป็นต้องห่างขนาดนี้แล้ว จากนี้ถ้าอะไรไม่หนักหนาก็จะกระเตงไปด้วยกันหมดนี่แหละ ตอนอยู่ที่คานส์ก็จะมีเวลาที่เราได้อยู่คนเดียวในห้องนั่นก็คือตอนตื่นเช้าและตอนปั๊มนมในห้อง ชมก็จะโทรหาค่ะ ซึ่งเขาก็ดูโอเคนะ ไม่ได้เดือดร้อน (หัวเราะ) เขาก็เล่นอะไรของเขาปกติ”
มีร้องไห้คิดถึงลูกไหม?
“โอ๊ย…มีตั้งแต่นั่งรถออกจากบ้านก็คิดถึงแล้ว ถามว่าพอกลับมาถึงบ้านเด็กๆ ร้องหาแม่มั้ย ไม่ได้ถึงกับร้องนะ แต่เขาก็ยิ้มดีใจแม่กลับมาแล้ว”
เห็นมีพี่เลี้ยงไปช่วงดูแลน้องเยอะเลย?
“จริงๆ ชมก็ไม่ได้ห่วงเรื่องทีมนะ คือชมโชคดีที่มีคนช่วยเลี้ยงที่โอเค ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของความคิดถึงมากกว่า”
แล้วนมที่อิมพอร์ตมาให้ลูกเยอะไหม?
“ก็ 30 กว่าถุง ตามเป้าเลยค่ะ เพราะชมปั๊มวันละ 4 รอบ แล้วชมหายไป 8 วัน ตกประมาณ 30 กว่าถุงค่ะ”