สำหรับคู่แม่ลูกสุดฮอตแห่งวงการบันเทิง ต้องยกให้แม่เลี้ยงเดี่ยวอย่าง “หมู พิมพ์ผกา เสียงสมบุญ” และลูกชาย “นาย ณภัทร เสียงสมบุญ” ที่ล่าสุดได้รับรางวัลครอบครัวบันเทิงแห่งปี ในงานประกาศรางวัล “ไนน์เอ็นเตอร์เทน อวอร์ดส์ ครั้งที่ 10” ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ทำเอาคุณแม่น้ำตาไหลเป็นปลื้มสุดๆเลยทีเดียว และงานนี้แม่หมูก็ได้ควงลูกชายเปิดใจถึงความรู้สึกในครั้งว่า
แม่หมู : ซ้อมหน้ากระจกนาน ยิ่งกว่ารับรางวัลออสการ์ (หัวเราะ) ลองพูดอยู่ที่บ้านก็ร้องไห้ตลอด เลยบอกตัวเองว่าวันนี้ห้ามร้องไห้ เดี๋ยวจะพูดไม่รู้เรื่อง คือเราดีใจตั้งแต่ทางทีมงานไนท์เอ็นเตอร์เท็นแจ้งมาแล้ว ร้องไห้เลย ดีใจมาก มันเหมือนเป็นประกาศนียบัตรความเป็นแม่ของเราค่ะว่าเรามาถูกทางเเล้ว แล้วก็เป็นที่ยอมรับของทุกท่าน ภูมิใจในตัวเขาที่สุดค่ะ มันคงไม่มีอะไรดีไปกว่าคำที่ทุกคนยอมรับเขา ทุกคนชื่นชมเขาให้เราฟัง ทุกครั้งที่เราเจอคน เขาจะมาพูดกับเราว่าเลี้ยงลูกได้ดีมาก มันเป็นคำชมที่ไม่มีอะไรมีความสุขไปมากกว่านี้แล้ว
นาย: มีอะไรอยากจะพูดเยอะมาแต่พูดไม่ออก ตั้งแต่บนเวทีแล้ว จริงๆผมก็อยู่กับครอบครัวของผมมาสองคนตลอด แล้วก็คอยดูแลกันและกัน อาจจะมีหลายครอบครัวที่อยู่ในภาวะเช่นเดียวกัน ผมก็ขอเป็นกำลังให้กับครอบครัวนั้นๆด้วยนะครับ บอกได้เลยว่ารางวัลนี้สำหรับแม่ผม ไม่มีใครเหมาะได้เท่าแม่ผมอีกแล้ว (ยิ้ม) ทุกวันนี้ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะคุณแม่นี้แหละครับ ที่คอยสอน คอยอยู่ช่วยแก้ปัญหา คอยแนะนำทุกอย่าง กำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก มันเป็นแรงผลักดันที่มันยิ่งใหญ่มาก ไม่ว่าจะอะไรก็ตามครอบครัวคือจะมีความหวังดีให้เราแล้วก็เป็นที่ปรึกษาที่ดีที่สุด เพราะฉะนั้นกำลังใจเป็นสิ่งที่เราต้องคอยให้กันตลอดอยู่แล้ว
ต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาเยอะไหม ถึงจะฝ่าฟันจนมีวันนี้?
แม่หมู : ก็ถ้าให้พูดประมาณ 3 วันก็ไม่หมดเนอะ (หัวเราะ) แน่นอนชีวิตมันเป็นเรื่องปกติที่จะเจออุปสรรค หมูจะสอนลูกเสมอว่าเวลาเราเจอความทุกข์ให้อยู่กับทุกข์ให้สนุกที่สุดแค่นั้นเอง ความทุกข์มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องพบต้องเจอ คือหมูมีแฟนเพจในเฟซบุ๊กประมาณ 2 แสนคน แล้วมีคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเยอะมาก บางทีเราแนะนำใครไป บางคนก็จะตอบกลับมา คิดว่าเราเป็นดารา คงไม่ทุกข์เท่าเขา หมูจะบอกว่าเวลาคนเรามันมีความทุกข์ มันวัดกันไม่ได้ว่าใครทุกข์กว่าใคร ใครสุขกว่าใคร สิ่งเหล่านี้มันวัดกันไม่ได้ สิ่งที่เราจะทำได้คือรวบรวมสติ ไตร่ตรอง แล้วก็อยู่กับความทุกข์แก้ไขปัญหาไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีทุกข์ให้มองมันเป็นเรื่องสนุก ว่าเราจะแก้ปัญหาตรงนี้ไปได้ยังไง ทุกครั้งที่ลูกเจอความทุกข์ หมูก็จะบอกว่าน้องนายสนุกกับมันสิ ถ้าเราแก้ปัญหาได้เราคือสุดยอดเลยนะ เราจะขึ้นบันไดไปอีกขั้นนึง พอเราเจอทุกข์อันใหม่ เราก็จะขึ้นบันไดไปอีก เราก็จะขึ้นสูงๆไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เราเจอความทุกข์มันทำให้เราไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น
นาย : ปกติเราเจอปัญหาอะไรเข้ามา ผมก็จะเป็นที่ปรึกษาที่ดี มันเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเราคอยอยู่และเป็นกำลังใจให้กันตลอด
แม่หมู : คือตั้งแต่เล็กจนโต หมูจะปรึกษาเขา ตั้งแต่เล็กๆเลย แม้แต่เรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง เราก็จะรับฟังคำปลอบของเขา บางทีคำปลอบของเด็กตัวเล็กๆในวัยนั้นอาจจะเป็นคำปลอบที่ดีที่สุด เพราะมันเป็นคำปลอบที่ใสใส ไม่ต้องคิดมาก ตรงไปตรงมา เราก็เอาคำที่คำให้คำปรึกษาไปลองทำดู แล้วพอมันได้ผลเราก็กลับมาชื่นชมเขา ว่าสิ่งที่น้องนายแนะนำแม่ไป มันดีมาก มันใช้ได้ เราทำกลับไปกลับมากันแบบนี้สองคนแม่ลูก จนโตเราก็ยังทำกันอยู่ ยังเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กันอยู่
ถามถึง น้องนาย วันนี้เราเป็นเหมือนผู้นำครอบครัวแล้ว?
นาย : ใช่ครับ ผมคิดว่าการที่จะเติบโตเป็นคนคนนึงได้ก็ต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่และความรับผิดชอบในหลายๆอย่างเพิ่มขึ้น ผมว่าตรงนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องมีอยู่แล้ว ต่อไปนี้ก็จะเป็นเรื่องของเราโต เราเรียนจบ ก็เป็นอีกเป้าหมายนึง ต่อไปก็คงเป็นการดูแลคนในครอบครัวเราที่เขาเหนื่อยมาทั้งชีวิต
ถามเรื่องมีแฟน คุณแม่ว่ายังไงบ้าง?
แม่หมู : (หัวเราะ) ยังไม่ถึงเวลาค่ะ ไม่ได้หวง แต่เรารู้สึกว่าเขายังมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำอีกเยอะ ถ้ามีตอนนี้ก็มีได้ไม่เป็นไร แต่รู้สึกว่าด้วยวุฒิภาวะ ด้วยหน้าการงาน ด้วยอะไรหลายๆอย่าง น่าจะยังไม่พร้อม ในความคิดแม่นะ (สาวๆคุณแม่ต้องสกีนเยอะมั้ย?) จริงๆเอาเป็นความรู้สึกดีๆมากกว่า ถ้าเกิดมีแล้วมันทำให้มาเติมเต็มชีวิตเรา ทำให้เรามีความสุขขึ้น ดูกันที่ปลายเหตุตรงนั้นเลยมากกว่า เพราะแม่อยากมีลูกสาวมาแทนลูกชาย เด็กผู้ชายจะไม่ค่อยละเอียด
นาย : (แล้วในความคิดนาย?) ก็อีกแบบนึง ความคิดใครความคิดเขา แต่ว่าเราก็รับฟังความคิดเห็นของกันและกันตลอด แม่ก็ไม่ใช่ว่าห้ามผม แต่จะแนะแนวทาง ให้ผมคิดเองตัดสินใจเอง (มีคุยกับสาวๆบ้างไหม?) มี เพื่อนผู้หญิงเต็มเลย (หัวเราะ) ปกติคุยกับสาวๆแม่ก็ไม่ได้รู้ทุกคนครับ (หัวเราะ) ก็มีถามๆเขาบ้าง แต่ตอนนี้เราจะเรียนจบมหาลัยแล้ว เราก็มีโปรเจ็กต์ที่จะต้องทำเราก็อยากทุ่มเทตรงนี้ให้ดีที่สุดไว้ก่อน
วันรับปริญญาคุณแม่คงภูมิใจมากใช่ไหม?
แม่หมู : บางทีปริญญาไม่ใช่คำตอบสุดท้ายในชีวิตเรา แล้วน้องนายจะเป็นคนจริงจังมากกับทุกเรื่องที่เขาทำ เป็นเด็กที่ตั้งใจมาก ตั้งใจเกินไป จริงจังเกินไป มันเลยขาดความสุขในชีวิต ถ้าตรงนั้นมันหายไปแล้วเอาปริญญามาแทน แม่ก็ไม่ได้ชื่มกับปริญญามากนัก เพราะฉะนั้นทำอะไรก็แล้วแต่พอดีๆ มีความสุขกับทุกเรื่องที่ได้ทำ แล้วปริญญาใบนั้นมันก็จะมีความหมายสำหรับแม่ (ตอนนี้ก็อย่าเพิ่งมีแฟน?) อ่อไม่ค่ะ ถึงมีก็อย่าให้รู้ (หัวเราะ)
