ประเด็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ขณะนี้คงหนีไม่พ้นกรณี พระเอกหนุ่ม “หมาก ปริญ สุภารัตน์” ให้สัมภาษณ์เหน็บแรงกรณี “มิ้นต์ ชาลิดา” ถ่ายรูปคู่กับ “คิมเบอร์ลี่” ในงานปาร์ตี้สละโสดของ “มาร์กี้ ราศรี” ทำเอาหลายคนออกอาการไม่พอใจอย่างแรงถึงการใช้คำพูดของพระเอกหนุ่ม ถึงขั้นตั้งกระทู้วิจารณ์ด่าพระเอกหนุ่ม “ป๋าหมาก” กันแบบรัวๆ
พอได้เจอ “หมาก ปริญ” เลยขอถามถึงเรื่องนี้ รวมทั้งวันครบรอบ 4 ปี กับหวานใจสาว “คิมเบอร์ลี่” ที่เพิ่งควงกันไปดินเนอร์สุดหวาน แถมคนตาดียังแอบไปเห็นแหวนที่นิ้วมือของสาวคิม เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าเป็นการจองตัวแล้วหรือเปล่า
ถามถึงประเด็นที่เราให้สัมภาษณ์เหน็บมิ้นต์ ชาลิดา ?
“เอาเป็นว่าผมขอไม่ตอบเรื่องนี้เลยดีกว่า เพราะหลายคนหลายความคิด ตอบไปบางทีไม่เข้าหูคนนั้นคนนี้ ผมขอหยุดตรงนี้ดีกว่า ส่วนคนมาว่าผม ก็แล้วแต่ครับ แล้วแต่ ถ้าเขาสบายใจก็ทำไป อยากจบเรื่องนี้มากๆ ส่วนคนที่ว่าผม ป๋าหมาก เอาจริงๆ เลยนะครับ ผมเป็นคนตรงๆครับ ผมเป็นคนคิดอะไรก็พูดอย่างนั้น ไม่มีการโกหกใด ๆ ทั้งสิ้น ก็แล้วแต่แล้วกัน ถ้าคนมองผมปากเสีย ถ้าใครจะคิดว่ายังไงก็แล้วแต่เลยครับ”
“ผมว่าการพูดตรง ๆ มันดีกว่าการโกหก แต่ก็ไม่มีผู้ใหญ่มาเตือนเรื่องการให้สัมภาษณ์นะครับ ก็ต้องขอโทษถ้าเกิดพูดไปแล้วไม่เข้าหูใครนะครับ ฟีดแบคแง่ลบที่เข้ามาในอินสตาแกรม เอ่อ จริงๆ ก็มีนะ แต่ก็นับได้ไม่ถึง 5 คน (มันบั่นทอนการชีวิตของเรามั้ย ?) ไม่เลยครับ ผมก็ใช้ชีวิตของผม ตั้งใจทำงานเต็มที่ ถ้าใครไม่ชอบก็แล้วแต่เลย เพราะผมไม่สามารถไปบังคับใครได้ แล้วผมก็ไม่สนใจจริงๆด้วย ก็อย่างที่ผมบอกไป การที่พูดตรง มันดีกว่าการโกหก ส่วนคอมเม้นท์ไม่ดีผมก็ไม่สนใจ แค่ตอนนี้ผมคิดว่าให้มันจบไปเลยน่าจะดีกว่า (แปลว่าหลังจากถ้ามีการพูดถึงมิ้นต์ เราก็จะไม่ตอบเลย ?) ดีกว่าครับ มันมีหลายคนหลายความคิด เพราะฉะนั้นก็พื้นที่ใครพื้นที่มัน”
อย่างตอนนี้เพื่อนๆ ก็เริ่มคุยกับมิ้นต์มากขึ้น เราก็มีโอกาสอาจจะต้องเจอเขา เราโอเคไหม ?
“แล้วแต่โอกาสครับ ได้หมด ถามว่าเลี่ยงได้ไหม มันทำไม่ได้หรอกครับในชีวิตจริง แต่เราก็แค่อยู่ทางใครทางมัน ไม่ยุ่งเกี่ยวกันดีกว่า ส่วนถ้าเขากับคิมดีกัน อันนี้จริงๆ ผมก็เคยบอกไปแล้วว่า ภาพนั้นเป็นภาพที่ดีมากนะ ที่มันเป็นความสัมพันธ์ที่ดีของเขาสองคน ผมไม่ได้ว่าอะไรใครทั้งนั้นครับ หากเขาจะดีกันผมก็ยินดีด้วยครับ”
ถามถึงเรื่องของเราบ้าง ครบรอบ 4 ปี กับ คิมเบอร์ลี่ ?
“ก็ดีครับผม ของขวัญที่เขาให้ก็ถูกใจมากๆ วันนั้นเราก็ไปทานข้าวด้วยกัน ส่วนเรื่องที่เราไม่ได้ลงรูปหวานๆ เราทำทุกวันให้มันเป็นวันพิเศษอยู่แล้ว วันนั้นมันก็คือวันหนึ่งที่เราได้มากินข้าวร่วมกัน แลกของขวัญกันก็เท่านั้นเอง”
“สำหรับของขวัญที่ซื้อให้เขาก็ (หัวเราะ) เป็นเครื่องประดับครับ ไม่รู้เหมือนกัน เชื่อว่าเดี๋ยวคงมีคนสังเกตได้ว่าคืออะไร ขอตอบว่าเป็นเครื่องประดับแล้วกัน (ยิ้ม) ถามว่าใช่แหวนไหม ไม่หรอกครับ แต่ก็เป็นของพิเศษที่ตั้งใจมอบให้ และมันก็มีความหมายที่ดีในตัวมันเองอยู่แล้ว”
“จริงๆ 4 ปี ที่ผ่านมา ก็ต้องขอบคุณหลายๆทางนะครับ ที่ทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น แล้วก็ทำให้เราโตขึ้นมากๆ ว่าเราผ่านอะไรมาเยอะ ขอบคุณทุกๆคนจริงๆ ครับ เข้าใจกันและกันมากขึ้นไหม ก็ใช่ครับ ถามว่ายังมีอะไรต้องปรับอีกไหม ก็เยอะครับ ลิ้นกับฟัน ตอนนี้ทุกอย่างก็โอเคดีแล้ว (ยิ้ม) ส่วนเรื่องอนาคตจะยังไงก็เอาไว้ถ้ามีโอกาสที่ดีจริงๆ ดีกว่า (หัวเราะ) แต่ตอนนี้เราก็รีบทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะพร้อมทุกอย่าง”